เมี่ยงโค้น มีความเป็นมาอย่างไร

 เมี่ยงโค้น มีความเป็นมาอย่างไร

ตอบ ในยุคสมัยก่อนนั้นอำเภอด่านซ้ายยังไม่มีความเจริญอย่างเช่นทุกวันนี้ การไปมาหาสู่ก็ลำบาก จะเข้าไปอำเภอหรือจังหวัดก็ต้องใช้เกวียนหรือเดินเอา ขึ้นเขาลงห้วย ยิ่งหน้าฝนก็ลำบากมาก ต้องใช้เวลาเดินทางอย่างน้อยก็ ๒ วัน ไม่เหมือนทุกวันนี้ เมื่อก่อนไม่มีแหล่งท่องเที่ยว ไม่มีสถานที่บริการให้ท่องเที่ยว ชาวบ้านเมื่อเลิกจากการทำไร่ทำนา ค่ำคืนมาไม่รู้จะไปที่ไหน โทรทัศน์ วิทยุ ก็ไม่มีดูอย่างเช่นทุกวันนี้ ก็จะมารวมกลุ่มคุยกันในเรื่องของการทำมาหากินและเรื่องต่างๆ การที่จะนั่งคุยอย่างเดียวมันก็ไม่ออกรสชาติ ดังนั้น
ผู้ที่มาก็จะหาพืชผักจากบ้านของตนเองมาคนละอย่างสองอย่างที่มีอยู่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพืชผักสมุนไพรพื้นบ้านเอามารวมกัน ชาวบ้านเรียกว่า กินเมี่ยง 

คำว่า กินเมี่ยง นั้น คนอีสานหมายถึงอะไร

ตอบ การเอาพืชผักหลายชนิดมาห่อรวมกัน แล้วกินกันไปคุยกันไป

การนำเอาน้ำผักสะทอนมาเป็นส่วนหนึ่งของเมี่ยงโค้น

ส่วนประกอบของเมี่ยงโค้นมีอะไรบ้าง

ตอบ ถั่วลิสงที่คั่วแล้ว หอมแดงสด กระเทียม ต้นตะไคร้ มะเขือพวง มะเขือเทศ มะเขือขื่น ข่า ขิง ใบชะพลู ใบส้มกุ้ง มะนาว พริกสด น้ำผักสะทอน ไข่มดแดง

เพิ่มคำอธิบายภาพ

การรับประทานทำอย่างไร

 

ก็เอาใบชะพลูและใบส้มกุ้งมาวางซ้อนกัน จากนั้นก็เอาส่วนผสมต่างๆ ซึ่งได้หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ มาใส่ในใบชะพลูแล้วหยอดน้ำผักสะทอน ห่อแล้วรับประทาน ถ้าต้องการเค็มก็ใส่เกลือเข้าไปสักนิด หรือต้องการหวานก็ใส่น้ำตาลเข้าไป เพราะน้ำผักสะทอนหอมและปรุงมาอย่างดี

ส่วนประกอบที่เน้นมีอะไรบ้าง

 มะเขือเทศต้องเป็นมะเขือเทศพื้นบ้านที่ชาวบ้านเรียกว่า บักเขียเคีย (มะเขือเครือ) ลูกเล็กรสจะออกเปรี้ยว ขิงถ้าเป็นขิงพื้นบ้านจะดี เพราะรสจะจัดกว่าขิงที่เขาเอาไปทำขิงกระป๋อง หรือที่วางขายกันในท้องตลาด